กินเวลาถึงปลายสงครามโลกครั้งที่2 ช่วงเวลาที่สำคัญคือยุครัฐนิยม อันจะส่งผลอย่างมากต่อการแต่งกายของชาวไทยจนถึงปัจจุบัน
รัฐบาลจอมพลป. ออกรัฐนิยมเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการแต่งกายเช่น การให้สวมหมวก การสวมเสื้อและนุ่งกางเกงของผู้ชาย การนุ่งผ้าถุงและกระโปรง สวมรองเท้า ยกเลิกการนุ่งโจงกระเบน ห้ามสตรีตัดผมสั้น(ทรงดอกกระทุ่ม)บางครั่งเรียกช่วงนี้ว่า มาลานำไทยไปสู่อำนาจ แต่หลังจากยุคนี้การสวมหมวกก็หายไปและการนุ่งโจงยังคงมีอยู่บ้างตามชนบทโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เคยชิน
การแต่งกายยุครัฐนิยม ชุดกลางคืนไม่สวมหมวก
จะมีท่านๆนึงที่ต้องกล่าวถึงคือสมเด็จฯเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์นรินทรเทพกุมารี กรมหลวงเพชรบุรีราชวิรินธร ภาพนี้ถ่ายสมัยร.6 มนหนังสือสวนสุนันทาในอดีตกล่าวว่า ทรงเป็นบุคคลแรกที่คิดนุ่งถุงสำเร็จ ด้วยพระอุปนิสัยที่นำสมัย ทรงคิดถุงสำเร็จก่อนหน้ายุคจอมพลป. ท่านนำเอาซิปหรือกระดุมมาติดผ้าถุงให้ใส่ง่ายขึ้น
จอมพลป.และท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม
แสดวการแต่งกายแบบเป็นทางการในสมัยนั้นสวมเสื้อสมัยนิยมกับผ้าซิ่น
แบบทรงผมและหมวกของยุคมามานำไทยเจริญ
สตรีไทยในชุดแบบตะวันตก
ภาพยนตร์เรื่อง ไม่เคยรัก สังเกตว่าคนรุ่นเก่ายังคงนุ่งโจงอยู่ส่วนรุ่นใหม่จะนุ่งกางเกงกับซิ่นตามรัฐนิยม
นางสาวสยาม เป็นการจัดการประกวดสาวงามฉลองงานรัฐธรรมนูญ
แบบชุดสมัยสงครามโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น